|
![]() | ความเป็นมา วัดหนองโนเหนือ มีความเป็นมากว่า 200 ปี เดิมชื่อ "วัดบูรณะสามัคคี" เมื่อราวปี พ.ศ. 2363 ได้ย้ายสถานที่ตั้งจากวัดที่รกร้าง มาตั้งอยู่บริเวณใกล้หนองน้ำ เพื่อเป็นจุดศูนย์กลางของหมู่บ้าน เปลี่ยนเป็นชื่อ "วัดหนองโนเหนือ" จนถึงปัจจุบัน สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งแรก พ.ศ.2373 และครั้งที่สอง พ.ศ.2541
เลขที่ 68 ม.3 บ้านหนองโนเหนือ ต.หนองโน อ.เมือง จ.สระบุรี โทร 08-1851-8347 (เจ้าอาวาส)
วัดหนองโนเหนือ มีพื้นที่ 5 ไร่ 2 งาน 86 ตารางวา ผู้ปกครองคณะสงฆ์ พระอธิการประกาย อนาลโย เป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ปี 2539-ปัจจุบัน
ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน จากกรมศิลปากรในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 115 ตอนพิเศษ 37 ง หน้า 9 วันที่ 19 พฤษภาคม 2541 ประกาศ ณ วันที่ 13 มกราคม 2541 มีโบราณสถานและโบราณวัตถุ ดังนี้ 1.พระพุทธรูปโบราณ จำนวน 2 องค์ เป็นพระพุทธรูปหินทราย ปางมารวิชัย องค์ที่ 1 พระเพลากว้าง 28 นิ้ว สูง 41 นิ้ว จากคำบอกกล่าว ชาวบ้านได้อัญเชิญมาจากวัดร้าง คือ วัดโคกม่วงแล้ง ต.หนองควายโซ อ.หนองแซง จ.สระบุรี ชาวบ้านเรียกชื่อว่า "หลวงพ่อแล้ง" 2.วิหารโบราณ (พระอุโบสถหลังเก่า) สร้างเมื่อ พ.ศ.2373 ก่ออิฐ ถือปูน กว้าง 5 เมตร ยาว 6 เมตร กรมศิลปากร ได้ประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน 3.ธรรมาสน์โบราณ กล่าวกันว่าเป็นพระแท่น ว่าราชการของวังหน้าในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ตอนต้น ประวัติพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ "หลวงพ่อแล้ง" ประดิษฐานในวิหาร (พระอุโบสถหลังเก่า) ณ วัดหนองโนเหนือ ต.หนองโน อ.เมือง จ.สระบุรี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทั้งสององค์ นามว่า หลวงพ่อแล้ง เป็นนามชื่อที่ชาวบ้านเรียกขานในอดีตจนถึงปัจจุบันเป็นพระพุทธรูปหินทรายสีแดง รูปแบบศิลปะอู่ทอง สมัยอยุธยา ประทับนั้นแสดงปางมารวิชัย องค์ที่ 1 พระเพลากว้่าง 27 นิ้ว สูง 40 นิ้ว องค์ที่ 2 พระเพลากว้าง 28 นิ้ว ความสูง 41 นิ้ว ประดิษฐานในวิหาร (พระอุโบสถหลังเก่า) ของวัดหนองโนเเหนือ จากคำบอกเล่าของชาวบ้านว่า แต่เดิมพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทั้งสององค์ได้ประดิษฐานอยู่ในวัดร้าง ชื่อวัดโคกม่วงแล้ง อ.หนองแซง จ.สระบุรี สมัยนั้นได้เกิดโรคระบาดผู้คนล้มตาย พระสงฆ์และชาวบ้านได้อพยพไปอาศัยที่อื่น ทำให้วัดโคกม่วงแล้ง กลายสภาพเป็นวัดร้างจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ยังพบซากอิฐและต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ปรากฎอยู่ ราวประมาณ 2373 พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองพระองค์ได้นิมิตให้ชาวบ้านหนองโนเหนือ ว่าอยากมาอยู่วัดหนองโนเหนือ อยากกิน บักมี่ (เป็นภาษาลาว แปลความหมายว่า ขนุน ) ให้ชาวบ้านหนองโนเหนือไปทำพิธีอัญเชิญมาเพื่อประดิษฐานไว้ที่วัดแต่ในขณะนั้นปรากฎว่ามีหลายหมู่บ้านที่ทราบข่าวต่างพากันไปพร้อมด้วยคานหาม เพื่อที่จะอัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทั้งสององค์ไปประดิษฐานยังวัดของตน แต่ก็ไม่สามารถที่จะอัญเชิญเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทั้งสององค์ได้ ครั้งพอชาวบ้านหนองโนเหนือ เดินทางไปถึงและทำพิธีอัญเชิญก็สามารถเคลื่อนย้ายได้ จังอัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทั้งสององค์มาประดิษฐานไว้ในวิหาร (พระอุโบสถหลังเก่า) เรียกชื่อหลวงพ่อทั้งสององค์ว่า "พ่อม่วงแล้ง"ตั้งแต่ปี พ.ศ.2373 เป็นตันมาจนถึงปัจจุบันนอกจากนี้ภายในวิหารยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องราวพุทธประวัติ ที่เป็นวิถีชีวิตของชาวไทยวนสกุลช่างหลวงในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น และปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานแห่งชาติ ประกาศ ณ วันที่ 13 มกราคม 2561 หลวงพ่อแล้ง เป็นที่เคารพสักการบูชา และกราบขอพรของชาวบ้านและบุคคลทั่วไป เมื่อบุคคลใดมีเรื่องทุกข์ร้อน หรือประสบปัญหาต่างๆ ต่างพากันมากราบขอพรต่อหลวงพ่อแล้ง ครั้งเมื่อได้รับความสำเร็จตามประสงค์ ก็จะนำขนุนสุกเป็นเครื่องสักการะบูชา มาถวายเป็นการแก้บนตราบมาจนถึงทุกวันนี้ 06 กุมภาพันธ์ 2564 |
![]() | หมู่ที่ 2 ตำบลหนองโน อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี 06 กุมภาพันธ์ 2564 |
![]() | หมู่ที่ 6 ตำบลหนองโน อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี 06 กุมภาพันธ์ 2564 |
![]() | หมู่ที่ 7 ตำบลหนองโน อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี 06 กุมภาพันธ์ 2564 |
ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 / 1 (4 รายการ)